Triple Cheese Beef Burger |
ในอดีตพบว่ามีการกินเนื้อบดมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณเมื่อหลายพันปีก่อน เช่นเดียวกับในมองโกเลีย ในปี ค.ศ. 1238 หลานชายจองเจงกิสข่านชื่อ Khubilai Khan รุกรานเมืองมอสโก (Moscow) ของรัสเซียในปี ในขณะเดียวกันก็นำเนื้อบดสูตรเฉพาะของมองโกเลียติดไปด้วยและกลายเป็นที่แพร่หลายในรัสเซียในชื่อเนื้อสเต็กทาทาร์ (Steak Tartare) ซึ่งทาทาร์คือชื่อเรียกชาวมองโกลนั่นเอง และในภายหลังเชฟชาวรัสเซียได้ประยุกต์ผสมหัวหอมสับและไข่ดิบผสมลงไปในทาทาร์ด้วย
ในยุคศตวรรษที่ 15 เนื้อวัวบดกลายอาหารที่มูลค่าและแพร่หลายไปทั่วทวีปยุโรป และเนื้อวัวบดยังถูกนำมาทำเป็นไส้กรอกในหลายๆประเทศทั่วยุโรปอีกด้วย จนกระทั่งศตวรรษที่ 16 เรือเยอรมันจากท่าเรือฮัมบูร์ก (Hamburg) เดินทางไปที่ท่าเรือรัสเซียและได้นำทาทาร์กลับมาที่เยอรมนีด้วย
เยอรมนีกลายเป็นศูนย์กลางท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรปในปลายศตวรรษที่ 18 กะลาสีและชาวเรือหลายๆคนที่เดินเรือระหว่างเมืองฮัมบูร์ก-นิวยอร์ก (New York) นิยมซื้อเนื้อบดทาทาร์นี้ในชื่อของ เนื้อฮัมบูร์ก (Hamburg Steak) และนำไปปรุงอาหารในหลายๆแบบ โดยเฉพาะที่ท่าเรือนิวยอร์คได้ประยุกต์ทำอาหารให้กะลาสีและชาวเรือสามารถยืนกินง่ายๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ สเต็กฮัมบูร์ก (Hamburg Steak)
ต่อมาชาวเยอร์มันอพยพเข้าไปในสหรัฐอเมริกามากขึ้นและได้นำเนื้อบดขึ้นชื่อนี้ตามไปด้วย แต่การปรุงใช้เนื้อวัวคุณภาพต่ำผสมด้วยเครื่องเทศท้องถิ่น มีทั้งแบบปรุงทั้งสุกและดิบ จึงกลายเป็นอาหารของคนชนชั้นล่าง อย่างไรก็ตามในเยอรมนีไม่ได้เรียกเนื้อบดนี้ด้วยชื่อสเต็กฮัมบูร์กแล้ว แต่เรียกว่า Frikadelle Frikandelle หรือ Bulette (มาจากภาษาอิตาเลียนและฝรั่งเศส)
ในศตวรรษที่ 18 เครื่องบดเนื้อถูกประดิษฐ์ขึ้นเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา และมีการพัฒนาใช้แม่พิมพ์ทำให้เนื้อบดเป็นแผ่นๆกลมๆ หรือเรียกว่า Patty เพื่อความสะดวกในการทำอาหารมากขึ้น นอกจากนี้ในปลายศตวรรษช่วง ค.ศ. 1871-1884 ร้านอาหาร Clipper ใน San Fernando ได้เพิ่ม Hamburg Beefsteak ในเมนูอาหารของร้านซึ่งมีราคาเพียง 10 เซนต์ หรือประมาณ 3 บาทเท่านั้น เนื้อแฮมบูร์กถูกดัดแปลงไปตามแต่ละสไตล์ของร้านอาหาร เช่น นำไปผสมกับตับและไขกระดูก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในปี 1906 ชาวอเมริกันต่างลดการบริโภคเนื้อ เนื่องจากไม่ไว้ใจโรงงานบรรจุเนื้อสัตว์ในชิคาโกที่ไม่ถูกสุขลักษณะตามที่เขียนในนวนิยายชื่อ The Jungle แต่งโดย Upton Sinclair ซึ่งทำให้ซินแคลร์แปลกใจอย่างมากที่ผู้อ่านสนใจประเด็นนี้แทนเนื้อในนิยายของเขา
ร้านอาหารในอเมริกาในอดีตเสิร์ฟเนื้อแฮมบูร์กบนขนมปังหรือประกบด้วยขนมปังแซนด์วิช ซึ่งยังคงไม่มีที่มาที่ชัดเจนว่าใครเป็นคนแรกเริ่มเสิร์ฟเจ้าแฮมเบอร์เกอร์นี้ แต่ที่แน่ชัดคือแฮมเบอร์เกอร์กลายเป็นอาหารที่แพร่หลายตั้งแต่ปี 1904 ที่งาน World's Fair หรืองาน Louisiana Purchase Exhibition ในรัฐมิสซูรี (Missouri) โดยนักข่าวรายงานเกี่ยวกับแซนด์วิชแบบใหม่ที่ชื่อ Hamburger ว่าเป็นนวัตกรรมชิ้นเอกของอาหารรถเข็นเลยทีเดียว
ส่วนที่มาของชีสเบอร์เกอร์ (Cheeseburger) นั้นยังคงเป็นข้อถกเถียงกันว่าอาจจะมาจาก Denver แห่งรัฐ Colorado เมือง Louisville รัฐ Kentucky หรือเมือง Pasadena รัฐ California
เรียบเรียงโดย: Burinkinkao Burger & Steak, Bangkok
ข้อมูลจาก: https://whatscookingamerica.net/History/HamburgerHistory.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น